ในการปั้นธุรกิจซักอย่างหนึ่งไปให้ตลอดรอดฝั่งนั้น เป็นไปไม่ได้อยู่ที่เส้นทางจะโรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ มีแต่หนามกุหลาบที่คอยทดสอบความมุ่งมั่นของเจ้าของธุรกิจเอง ในการสร้างแบรนด์จนกลายเป็นที่รู้จักของสารธารณะในที่สุด คุณเองอาจต้องเจออุปสรรคนานัปการด้วยกัน ซึ่งโดยรวม ๆ แล้วนี่จะเป็น
8 สิ่งที่เจ้าของธุรกิจมักจะต้องเจอเมื่อเริ่มดำเนินธุรกิจ ลองถามใจตัวเองดูว่า หากเจอสิ่งต่อไปนี้แล้วคุณจะก้าวข้ามมันไปได้หรือไม่ หากคิดว่าไหวก็สามารถลุยได้เลย
1. ช่วงต้น ๆ ของการทำธุรกิจรายได้รวมมักอยู่ฝั่งลบ สิ่งนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่ใคร ๆ ก็พบได้ เนื่องจากธุรกิจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ส่วนมากก็จะใช้การบอกต่อ ๆ กันไป วิธีการเสริมให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากขึ้นก็คือการทำตลาดออนไลน์คุณมีเวลาเพียงพอแน่นอนกับการโปรโมทธุรกิจของคุณให้เป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์
2. ในช่วงต้น ๆ ของการทำธุรกิจอีกเช่นกันที่หุ้นส่วนบางคนที่มองเห็นว่าไม่ค่อยมีรายรับจะถอนตัวออกไป ด้วยสารพัดข้ออ้างที่ล้วนน่าเห็นใจ หลายคนอาจถึงกับถอดใจกันไปเลย แต่ความจริงเป็นเรื่องที่ดีนะที่คนที่ไม่ตั้งใจร่วมหัวจมท้ายกับคุณดันถอนตัวออกไปเองเสียแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่เสียความรู้สึกในภายหลัง
3. ลูกค้าสารพัดแบบที่ทำให้คุณต้องหงุดหงิด คุณเองเลือกลูกค้าไม่ได้ มีทั้งดีและร้าย แต่นี่ก็เป็นอีกบททดสอบหนึ่งที่จะเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงจุดด้อยของธุรกิจคุณการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับก็ต้องลบจุดด้อยออกให้มากที่สุด การคอมเพลนจากลูกค้าเป็นข้อมูลที่ดีที่สุดแล้วเชื่อสิ
4. การสร้างแบรนด์ได้ผลช้าเกินไป กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว การเติบโตทางธุรกิจเร็วเกินไปจะทำให้ธุรกิจล้มง่าย เพราะไม่ทันได้ฝึกซ้อมการแก้ปัญหานานาชนิด อย่าเพิ่งใจร้อนค่อย ๆ บรรจงปั้นไปเรื่อย ๆ ให้พ้น 5 ปีแรก แก้ปัญหาที่เกิดให้ได้ให้หมดแล้วค่อยขยับเป้าหมายไปที่ 10 ปี ส่วนมากแล้วหากธุรกิจอยู่ได้เกิน 10 ปีขึ้นไปก็มักจะติดตลาดแล้วล่ะ
5. งานล้นมือจนการทำตลาดออนไลน์หยุดชะงัก เมื่อเวลาที่คุณต้องทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อมกันบางอย่างก็จะถูกละเลยไปอย่างการโปรโมทออนไลน์เนี่ย หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงนักก็ลงทุนซักนิด จ้างผู้มีประสบการณ์ทางด้านการทำตลาดออนไลน์ให้เป็นผู้ดูแลให้เสียเลย แบ่งเบาภาระคุณไปได้ตั้งเยอะ
6. ลูกค้าเยอะจนรู้สึกว่าดูแลไม่ทั่วถึง อันนี้ต้องระวัง เพราะเพียงหนึ่งเสียงแห่งความไม่พอใจของลูกค้าก็อาจทำให้ธุรกิจถึงกับปิดตัวไปเลยก็มี ให้ลองพิจารณาว่าพอจะจ้างลูกจ้างได้หรือไม่ถ้าพอได้ก็ค่อย ๆ รับมา สอนงานให้ดีเพื่อให้เค้าเป็นแขนขาแทนคุณต่อไป
7. รู้สึกว่าตัวเองทำธุรกิจของตัวเองแท้ ๆ แต่ทำไมเหมือนกับไม่ได้พักผ่อนเลย ในช่วงแรก ๆ ก็เป็นช่วงที่คุณต้องปั้นธุรกิจอยู่แต่เมื่อไหร่ที่การสร้างแบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จไประดับหนึ่งแล้ว คุณก็สามารถหยุดพักได้
8. รายได้ที่เคยสูงกลับตกฮวบจนท้อใจ มันเป็นเรื่องธรรมดาของธุรกิจที่มีขึ้นมีลง คุณต้องมองหาสาเหตุที่แท้จริงให้เจอว่าอะไรเป็นปัญหาที่ทำให้รายได้ของคุณมันทรุดฮวบ เพื่อจะได้วางแผนการแก้ไขที่ถูกต้อง ถูกวิธีต่อไป เช่น มีคู่แข่งที่คล้ายกับคุณ หรือลูกค้าไม่พอใจ หรือสินค้าของคุณมีปัญหา ฯ ลองวิเคราะห์ดูแล้วแก้ไข ไม่นานรายได้ก็จะกลับมาเอง
คุณต้องเป็นคนที่สนุกกับการแก้ปัญหา และจงเชื่อมั่นว่าธุรกิจของคุณมันจะต้องอยู่ได้ เพียงแต่ต้องอาศัยความรอบคอบให้มากขึ้นหน่อย เชื่อแน่ว่าหลาย ๆ คนจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
